วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2551

ผีสมัยสงครามโลก

สวัสดีค่ะ พี่ป๋อง หนูชอบฟังรายการของพี่ป๋องมาก และหนูก็มีเรื่องเล่าที่น่ากลัวมากเรื่องหนึ่งของคุณแม่ของหนู คุณพ่อกับคุณแม่หนูเป็นคนจีน เราอาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ เมื่อสมัยก่อนคุณแม่ของหนูยังมีฐานะพอกินพอใช้ คุณแม่ต้องช่วยคุณพ่อหนูขายหมูที่ตลาดบางลำภู คุณพ่อกับคุณแม่ของหนูต้องการจะหาบ้านเช่าจึงไปปรึกษาพี่สาวแม่ และต่อมาก็ได้บ้านเช่าหลังหนึ่ง ที่มีราคาไม่แพงนักย่านจอมทอง ตอนนั้นแม่ตั้งครรภ์พี่สาวหนูได้ 6 เดือนแล้ว เมื่อเริ่มย้ายเข้ามาอยู่ก็มีเรื่องแปลกๆ เกิดขึ้น ความวังเวงในบ้านทำชวนขนลุก บ้านนี้เป็นบ้านตึกแถวไม้ 2 ชั้น ความเก่าปานกลาง ภายในบ้านค่อนข้างอึมครึม วันแรกที่เข้าไปอยู่ คุณแม่ของหนูก็เริ่มจัดของเข้าที่คนเดียว เพราะคุณพ่อต้องไปขายหมูที่ตลาด เมื่อคุณแม่จัดของเสร็จบางส่วนก็อ่อนเพลีย จึงนอนลงที่เตียงผักผ่อน เมื่อผลอยหลับไปเพียงชั่วครู่ ก็ฝันแบบครึ่งหลับครึ่งตื่นเห็นยายแก่ๆ มีผ้าโพกหัว อยู่ในห้องซึ่งคุณแม่นอนอยู่เดินผ่านไปที่กำแพงซึ่งเห็นแต่หน้าด้านข้าง ความฝันเหมือนจริงมาก แล้วตอนนั้นเป็นความฝันในตอนกลางวันที่เห็นได้ชัดเจนมาก คุณแม่ก็เล่าให้คุณพ่อฟังเมื่อคุณพ่อกลับมาถึง พ่อหนูไม่เชื่อบอกว่าไม่มีอะไร คิดมากไปเอง วันต่อมา ป้าหนูมาที่บ้านช่วยจัดของแต่ป้าอยู่หน้าบ้านคุญกับเพื่อนบ้านอยู่ ส่วนแม่ก็อยู่ในห้องนอนจัดของเหมือนเดิม พอเริ่มเหนื่อยก็นอนพักเหมือนเดิม แต่ไม่รู้ว่าผลอยหลับไปตอนไหน แม่ฝันว่าแม่เดินตรวจสอบห้องอยู่ในบ้านเช่าหลังนี้อยู่ๆ แม่เห็นลังไปใหญ่มากไปหนึ่งอยู่ที่มุมห้อง ด้วยความสงสัยจึงเดินไปดู เพราะบ้านหลังตอนย้ายเข้ามา เป็นบ้านโล่งๆ ไม่มีเฟอร์นิเจอร์เลยสักชิ้น พอเปิดออกดู ก็เห็นหนังยางเต็มลัง เป็นหนังยางเหมือนที่เราใช้รัดถุงปกติ ด้วยความดีใจเพราะนึกว่าจะเอาไปขายได้ จึงแบกลังขึ้นบ่าเพื่อลงบันไดไม้มาให้ป้าดู พอแบกๆ อยู่ดีๆลังก็เริ่มหนักขึ้น หนักขึ้นเรื่อยๆ จนแม่แปลกใน เหลียวหันไปดู ปรากฎว่าของที่อยู่ในลังไม่ใช่หนังยาง !!แต่กลายเป็นหัวคน เป็นหัวของยายแก่ๆที่เห็นในห้องเหมือนในความฝันหันมายิ้มให้ แม่ตกใจร้องกรี๊ดๆๆ แล้วสะดุ้งตื่นขึ้นมา เมื่อตื่นขึ้นมาก็เห็นตัวเองในกะจกโต๊ะเครื่องแป้งที่วางไว้ตรงข้ามกับเตียงนอน เหงื่อโทรมตัว และตกใจมาก ยังไม่ทันหายตกใจดี อยู่ๆ ก็มียายแก่คนเดิมมาอยู่ตรงหน้าแล้วมาบีบคอแม่ แม่ตกใจมากและคิดว่าเจอผีแล้ว นี่ไม่ใช่ความฝันแน่ แม่หลับตาด้วยความกลัว และพยายามดิ้นและแกะมือของยายแก่ออก สักพักมารู้สึกตัวอีกทีก็คือ ป้ามาเขย่าตัวแรงๆ ถามว่าเป็นอะไร เพราะแม่วิ่งลงมาทางบันไดร้องกรี๊ดๆ โดยไม่ลืมตามองทาง แล้วยังแกะกระดุมเสื้อตัวเองด้วย แม่จึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ป้าฟัง ว่าเหตุการณ์ทุกอย่างเหมือนของจริงมากๆ เป็นฝันซ้อนฝันที่น่ากลัวมาก ตอนย้ายมาที่บ้านหลังนี้แม่ยังไม่ได้จุดธูปบอกกล่าว แม่กับป้าสงสัยจึงไปถามคนเก่าแก่ที่เป็นเพื่อนบ้านและอาศัยอยู่แถวนี้มานาน ได้ความว่าที่ตรงนี้สมัยก่อนเคยเป็นที่ที่เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ขึ้น มีคนตายมากมาย บางคนตายโดยที่ไม่รู้ตัว เมื่อเกิดสงครามขึ้น บางคนวิ่งหนี บางคนขี่จักรยานหนีและตายโดยไม่รู้ตัว ขี่ๆ อยู่ มีกรงจักรร่อนมาจากไม่รู้ตัดคอขาดกระเด็นไป แต่ตัวยังขี่จักรยานอยู่ก็มี เมื่อได้รู้ว่าประวัติเป็นอย่างนี้ แม่จึงปรึกษากับพ่อและย้ายออกจากบ้านหลังนั้นทันทีในเวลาต่อมา จึงเป็นประสบการณ์ว่าเมื่อเราจะซื้อบ้าน หรือซื้อที่ดินก็ตาม ควรตรวจสอบประวัติให้ดีก่อน เพื่อจะได้ไม่เจอเหตุการณ์แบบนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

Blog ที่เกียวข้อง