วันเสาร์ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2551

เสียงเรียกตามหลัง (ห้ามขานกลับนะ)

เรื่องมันมีอยู่ว่า วันนั้นเราไปเที่ยวบ้านเพื่อนที่จังหวัดราชบุรี บ้านเพื่อนของเรา มีไร่ข้าวโพด ไร่อ้อยห้อมล้อมเต็มไปหมด ด้วยความที่เป็นธรรมชาติ ตอนกลางวัน อะไรก็ดูดีไปหมด แต่เมื่อตกดึก ไม่ต้องคิดเลยใช่ไหมว่าจะเป็นยังไง มันเงียบๆๆๆ และไม่ค่อยมีบ้านใครอยู่แถวนั้นด้วย เราก็ออกไปเที่ยวกัน ประมาณ02.00เห็นจะได้ เราก็นั่งรถกลับมา ลองนึกภาพรถเก๋ง เรานั่งข้างคนขับเบาะหน้า ขับไปได้ซักพัก ใกล้จะถึงบ้านเพื่อนแล้ว พอถึงโค้ง เราเห็นคนนั่งอยู่ข้างทาง เป็นผู้หญิงผมยาว นั่งหันหลังให้ถนน ชุดขาว นั่งกอดเข่าอยู่น่ะ เราก็งงว่าตีสองมันจะมีใครมานั่ง ก็ถามเพื่อนว่าเห็นผู้หญิงคึนเมื่อกี้ไหม มานั่งทำไมตอนดีสอง เพื่อนก็มองกระจก บอกว่า ไม่เห็นมีใครเลย ตาฝาดเปล่า เราก็เลยนึกสงสัยตาฝาด หรือไม่ก็ง่วงมาก วันต่อมา เราก็ออกไปซื้อกับข้าว ไปร้านเน็ตด้วยแหละ เผอิญว่าลืมเวลา กลับตอนใกล้ค่ำแล้ว เราขึ่มอร์ไซต์มาคนเดียว พยายามที่จะร้องเพลงกลบเกลื่อน เพราะว่ากลัว พอมาถึงโค้งมันก็อดที่จะนึกไม่ได้ ทันใดนั้นเราได้ยินเสียงคนเรียกตามหลังเรา เรียกชื่อเรา เราก็ไม่ได้ขานรับ แต่มองในกระจกข้าง ว่าใครมายืนเรียกเรา แล้วแถวนั้นไม่มีใครรู้จักเรา เพราะเราไม่ใช่คนแถวนั้น เรามองในกระจก ปรากฎว่าไม่มีใครซักคน จากนั้นเราก็กลับไปเล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนบอกว่าแถวนั้นมันเป็นสุสานเก่า แล้วตรงโค้ง เค้าทำเป็นที่เผาศพน่ะ ตั้งแต่สมัยก่อนแล้ว แล้วก็มีคนโดนเรียกบ่อยเหมือนกัน เราเหวออย่างแรก เพราะไม่นึกว่าจะมาเจออย่างนี้ แม่เราเคยบอกไว้ว่า เวลามีคนเรียกเรา เราอย่าเพิ่งขานรับ ให้เห็นตัวก่อน ค่อยขานรับ ไม่เช่นนั้น เค้าจะเอาเราไปอยู่ด้วย เหมือนตัวตายตัวแทนน่ะ เราก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่านะ เรื่องก็มีอยู่แค่นี้แหละ ขอบคุณมากนะคะ ที่อ่านเรื่องของเรา

ไม่มีความคิดเห็น:

Blog ที่เกียวข้อง