เรืองก็มีอยู่ว่า ผมอยู่ในบ้านกับตา ยาย แล้วก็น้าสาวอีกคน แต่ตา ยาย น้
าสาวอยู่ข้างล่าง ผมอยู่ห้องข้างบนคนเดียว โดยที่ผมไม่รู้มาก่อนเลยว่าบนห้องนั้นมีอะไรบางอย่างที่ไม่มีตัวตนแอบแฝงอยู่
วันนั้นฝนตกหนักมาก ประกอบกับบ้านที่ผมอยู่มันค่อนข้างเก่า หลังคาเป็นสังกะสีแล้วมันผุ ฝนก็รั่วลงมาจนต้องเอาถังรองน้ำฝน ผมนอนอ่านหนังสือนิยายอยู่คนเดียว ซักพักก็มีเสียงคนเคาะประตูดังมาก ผมถามว่า"ใครอ่ะ"ก็ไม่มีเสียงตอบ เสียงเคาะก็ดังมาอีก คราวนี้เคาะรัวเลยครับ เคาะดังมาก จนผมรำคาญด่าไปเสียยกใหญ่ จนในที่สุดผมก็ลุกไปเปิดประตู แต่สิ่งที่เจอคือความว่างเปล่า มันคงเป็นสัญชาตญาณของเราแล้วมั้งว่ามันคงไม่ค่อยดีแล้ว
ก็เลยค่อยๆปิดประตูอ่านหนังสือต่อ พยายามข่มใจไม่ให้คิดมาก แต่ก็อดคิดไม่ได้ว่า เพิ่งเคาะอยู่เมื่อกี๊น้เอง ตอนที่เรากำลังเปิดก็เคาะอยู่แต่ทำไมเปิดไปไม่เจอใครเลย อะไรจะเร็วขนาดนั้นทั้งที่ตากับยายก็อยู่ข้างล่าง ต้องขึ้นบันไดมา แถมบ้านก็เป็นบ้านไม้ด้วยต้องมีเสียงเดินมั่งล่ะ แต่ก็ไม่มี ผมพยายามสลัดความคิดมากทิ้ง ผมก็นอนอ่านหนังสือต่อ แล้วหน้าต่างก็ดันเป็นกระจกด้วย
สักพักนึงก็ได้ยินเสียงเหมือนมีคนเอามือมาถูกระจกดังเอี๊ยดๆ ผมก็รู้แล้วว่าอะไรคืออะไร ผมพยายามไม่มองนะครับ แต่ก็เดห็นจนได้ เป็นมือขาวซีดเหมือนศพเป๊ะ ลูดกระจกไปมาๆ จนผมทนไม่ไหวพยายามเปิดประตูวิ่งหนี พอเปิดได้ก็วิ่งลงมาข้างล่างแบบไม่คิดชีวิตเลย มาถามตาตาก็เลยหัวเราะบอกว่า ผมไม่ได้เจอคนเดียว คนที่เคยมาค้างก็เจอกันมานักต่อนักแล้ว เขาเป็นนางไม้
พอดีอยู่ตรงขื่อด้วยก็เลยเฮี้ยน แล้วตาก็ชี้ไปที่รูปปั้นเป็นผู้หญิงมวยผมท่าเหมือนกำลังย่างเดิน แล้วพูดว่า ไหว้ซะสิ *จบ*
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น