สวัสดีครับ ทุกคน ผมขอฝากเนื้อฝากตัวก้วยคนนะครับ ( พอดีเพิ่งจะสมัครสมาชิกใหม่ ) เอาเป็นว่าเข้าเรื่องเลยแล้วกันนะครับ ช่วงนั้นตอนที่ผมจำความได้ตอนนั้นผมอายุประมาณ 16 ปี ซึ่งอยู่ม.5 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งในช่วงปิดเทอมระหว่างภาคเรียนนั้น คุณของผมได้บอกกับผมว่า ลูกขึ้นไปดูบ้านที่เชียงรายทีเพราะไม่มีใครอยู่ที่นั่นมานานแล้ว นั่นคือคำพูดของแม่ผม ซึ่งผมเองก็ต้องทำใจและยอบรับมัน วันรุ่งขึ้น แม่ผมได้สั่งให้ผมพาน้องไปด้วย ซึ่งน้องของผมเองก็อายุประมาณ13ปี เรา2คนได้เดินทางไปถึงที่นู้นประมาณตอนเช้า อากาศที่นั่นเย็นสบายมากๆ พวกเราก็พากันเก็บของ ในใจของผมตอนนี้รู้สึกดีมากๆๆเลยที่ได้มากอยู่แบบนี้ พอตกกลางคืนผมกับน้องก็มีของกินต้องรับเพียบจากเพื่อนบ้านข้างๆ ซึ่งคนที่ภาคเหนือนั้นจะมีนิสัยดีจริงๆๆนะครับ^^ พอตกดึกในคืนวันนั้นทีแรกผมกับน้องจะแยกห้องนอนกันเพราะที่บ้านหลังนั้นมี4ห้องนอนแต่มีคนอยู่กัน2คน ลองคิดดูนะครับเป็นเด็ก2คนอยู่ในบ้านแล้วรอบๆเป็นพื้นที่ว่างเปล่า มีต้นไม้ใหญ่ๆๆ ใครจะกล้านอนคนเดียว><"ตอนนั้นเวลาประมาณเที่ยงคืนเห็นจะได้ผมกับน้องก็คุยกันตามภาษาของพี่น้องที่เพิ่งมาอยู่ใหม่ๆ พอเรา2คนคุยกันได้สักพักหนึ่ง เรา2คนก้อได้ยินเสียงผู้หญิงดังขึ้นมา ซึ่งเป้นเสียงเสียงที่ไม่ดังมากแต่ผมพอจะได้จึงรู้สึกว่าเหมือนจะเป็นเสียงของคนที่กำลังร้องไห้ ตอนนั้นผมก็ไม่อยากจะบอกน้องเพราะผมกลัวว่าน้องของผมจะกลัว ผมจึงชวนน้องทันที ตอนนี้ผมกำลังเดินมาปิดไฟเพื่อนอนนั้น น้องผมได้บอกกับผมว่า พี่ครับไม่ต้องปิดไฟได้มั้ยครับ?ผมก็รู้สึกว่าเหมือนน้องของผมเค้าจะรู้ว่ามีอะไรบางอย่าง คืนนั้นเล่นเอาผมกับน้องนอนไม่หลับจนเช้า เพราะเรา2คนรู้สึกได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ทั้งคืน จนรุ่งเช้าผมกับน้องก็นอนหลับกันจนตื่นขึ้นมาประมาณ 5โมงเย็น น้องของผมได้เดินลงไปข้างล่าง ไปที่บ้านเพื่อนๆๆของแม่(พอดีที่บ้านผมจะอยู่สูงกว่าบ้านของคนอื่นๆ)ผมก้อลุกขึ้นมาอาบน้ามกินข้าวเสร้จเรียบร้อยแล้วผมจึงตามลงไปหาน้องข้างล่างหลังจากนั้น1ทุ่มผมก้อขึ้นมาที่บ้านเพื่อที่จะดูหนัง เวลาผ่านไปผมก้อเหลือบมองนาฬิกา ตอนนั้น เวลาตี1 ผมจึงรู้สึกง่วงนอนเคลิ้มๆ ทันใดนั้นผมได้ยินเสียง ปึ๊ง!!!เสียงเคาะประตูจากหลังบ้าน ผมก็บอกว่าใคร แล้วก้อไม่มีเสียงตอบกลับมา เวลาผ่านไป1นาที เสียงนั้นก็ดังอีก ปึ๊ง!!! เปิดประตูหน่อยมีเสียงออกจากประตู ตอนนั้นอาการที่ง่วงกลายมาเป็นความรู้สึกกลัวทันที จากนั้นเสียงเคาะก็ดังขึ้นเรื่อยๆ จนผมต้องเดินออกไปเปิดเพราะเริ่มที่จะรำคาญ ซึ่งตอนนั้นอารมณ์กลัวหายไปแต่เป็นอารมณ์โมโหแทน ซึ่งตอนนั้นผมก็มั่นใจว่าต้องเป็นคนมาแกล้งแน่ๆ เพราะคนข้างๆๆบ้านเค้าเป็นคนที่ขี้เล่นมากๆ ตอนที่ผมเปิดประตูออกไปนั้น ทั้งหมดมีแต่ความมืด ซึ่งในชีวิตของผมไม่เคยรู้สึกคำว่าหัวใจหล่นไปอยู่ตาตุ่ม ผมพยายามที่จะเปิดไฟพอเปิดไฟสว่างก็ไม่เห็นอะไรเลยขาผมเริ่มที่จะสั่น ในหัวผมตอนนั้นคือวิ่งไปไหนไม่รู้แล้วแต่ร่างกายไม่ยอมทำตามที่ผมสั่งเลย ตอนที่ผมก้าวออกไปได้นั้นเอง ไฟที่ผมเปิดอยู่กลับปิดลงอีกครั้งหัวใจของผมตอนนั้น แทบจะระเบิดออกมาแล้ว ผมวิ่งสุดชีวิตโดยที่ผมนั้นนึกถึงน้องผมก่อนเลยอันดับแรก ผมวิ่งเข้าไปเปิดประตูพอเปิดประตูได้ผมก้อเจอเงาซึ่งมีลักษณธเหมือนคนมากๆ มานั่งตรงข้างๆน้องผมแบบว่าเหมือนเค้ามารอผมสิ่งที่ผมพอมองเห็นออกไปได้นั้นคือเหมือนแสงของพระจันทร์พยายามที่ทำให้ผมเห้นใบหน้าที่ค่อยๆเงยขึ้นมา ผมจึงรีบปิดตาในใจผมในตอนนั้นคิดว่าเราไปทำอะไรไว้เนี่ยยยยย!!! ทำไมต้องเจอแบบนี้ผมกลัวมากจนต้องตะโกนเรียกชื่อน้อง มือของผมพยายามเปิดไฟแต่ไฟไม่ยอมติด ผมพยายามลืมตาขึ้นมานึดนึงเพื่อที่จะได้เห็นน้องผม ก้อยังเห้นน้องหลับอยู่ผมจึงรีบวิ่งไปที่ห้องพระตอนนี้นผมเจอพระผมรีบคว้าทุกอย่างแล้ววิ่งไปที่ห้องน้องพอไปถึงไฟที่ผมพยายามเปิดตั้งนานกลับสว่างขึ้นมาทันทีทันใด พอตั้งสติได้ผมรีบโทรหาแม่ผมวันรุ่งขึ้นแม่ผมนั่งเครื่องบินมาหาแล้วถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แม่ฟังแม่ผมก็บอกไม่รู้เพราะเมื่อสมัยที่แม่อยู่ก็ไม่ได้เจออะไร พอฟังเสร้จแล้วแม่ก็พาผมกับน้องไปที่บ้านข้างๆซึ่งบ้านหลังนี้อยู่ใกล้กับที่บ้านเรามาก พอเปิดประตูเข้าไปเท่านั้นเอง ผมถึงกับต้องตกใจ เพราะมีรูปภาพผู้ที่เสียชีวิตแล้วประมาณ20คนเห็นจะได้ซึ่งแต่ละคนจะเสียชีวิตประมาณ1-2ปีต่อๆๆกันมาขณะที่ผมดูรูปภาพของผ้ที่เสียชีวิตนั้น ก็มีลมพัดเย็นมากๆๆซึ่งเหมือนกับว่าลมนั้นพัดมาโดนผมคนเดียวผมจึงบอกกับแม่ผมว่าพาผมกลับมาได้แล้วครับT_T...
--------------------------------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น