วันพุธที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2551

เรื่อง โรงแรมสยอง....

ดิฉันทำงานเป็นไกด์พานักท่องเที่ยวจากต่างประเทศเข้ามาเที่ยวในกรุงเทพฯ เรื่องนี้น่ากลัวกว่าเหตุการณ์อื่นๆที่เจอมา ....เรื่องนี้เกิดขึ้นที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ บริเวณถนนหลักสี่ - แจ้งวัฒนะ วันนั้นเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ดิฉันได้นำนักท่องเที่ยวกลุ่มหนึ่งเข้าพักในโรงแรมดังกล่าว ตอนที่ดิฉันได้รับแจ้งจากทางบริษัทฯว่าต้องพักที่โรงแรมนี้นั้น ดิฉันนึกไม่ออกว่าโรงแรมอยู่ที่ไหน ของหลักสี่ แต่เมื่อมาถึงแล้วนั้นดิฉันก็ถึงบางอ้อทันที... ขณะที่เข้าไปเช็ค-อินนั้นดิฉันก็รู้สึกว่า โรงแรมนี้มันทึม ๆ ชอบกล มี ทางแบ่งแยกหลายทาง ซับซ้อนกว่าโรงแรมอื่น ทั้งๆที่เป็นเวลา 16.00 น. เท่านั้น ภายในเคาน์เตอร์เช็คอินและตามทางเดินของโรงแรมนั้น มีหิ้งพระเยอะมาก ข้างนอกก็ประมาณ 3 หิ้ง ด้านในอีกระหว่างทางเดินอีก ไม่เกิน200 เมตรก๊พบ หิ้งพระ ทุกหิ้งมีพระเต็มไปหมด แล้วยังมีทั้งยันต์ แผ่นทองแดง ตี่จูเอี้ย อีก หลังจากเช็คอินเสร็จแล้วดิฉันก็ให้ bell boy นำกระเป๋าของดิฉันและเพื่อนไปเก็บที่ห้อง ก็แปลกที่กระเป๋า 2 ใบแต่พนักงานเดินกันไปทั้งหมด 3 คน ทั้งหมดทำหน้าตาแปลกๆ ดิฉันก็ไม่คิดอะไรมาก แต่ก็คิดว่าที่นี่ต้องมีอะไรแน่ๆเลย จากนั้นดิฉันก็เข้าไปอาบน้ำ โดยที่เพื่อนดิฉัน ดู ที วี อยู่ในห้อง ขณะที่กำลังอาบน้ำอยู่นั้นดิฉันก็รู้สึกว่ามีคนยืนอยู่ทางด้านหลัง (ห้องน้ำที่โรงแรมจะเป็นเมื่อเปิดประตูเข้าไปจะเป็นกระจกบานใหญ่ตรงข้ามกับอ่างอาบน้ำ) เมื่อหันไปมองก็ไม่เห็น สักพัก หางตาก็เหลือบมองไปทางกระจก เห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่บนขอบอ่างอาบน้ำ ตัวดำมืด นุ่งผ้าแดง แต่พอหันไปมองเต็มๆตา ก็ไม่มีแล้ว หลังจากนั้นดิฉันก็เลยรีบถูสบู่ ขณะที่ก้มลงถูที่เท้านั้น ฉันมองเห็น เท้าของคนๆหนึ่ง ที่ดำ มาก ดำเหมือนนิโกร ยืนอยู่ทางด้านหลังของดิฉัน ฉันมองไล่ขึ้นมา จนดิฉันไม่แน่ใจว่าคนหรือผีจนตัดสินใจหันกลับไปมอง ดิฉันก็พบว่า เขาก็ทำหน้าตกใจเหมือนกัน ภาพนั้นยังติดตาดิฉันอยู่ ผู้ชายที่ตัวดำมาก นุ่งผ้าแดง ตาโตเหมือนไข่ห่าน สูงจากขอบอ่างอาบน้ำ ถึงเพดานด้านบน ดิฉันไม่อาบแล้ว วิ่งออกมาจากห้องน้ำทันที เพื่อนก็ถามว่ามีอะไรแต่ดิฉันไม่กล้าบอก กลัวเพื่อนจะกลัว จากนั้นพอเพื่อนเข้าไปอาบน้ำ ไม่ถึง 3 นาที เขาก็ออกมาท่าเดียวกับฉันเลย หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้พูดอะไรกันจนกระทั่ง แขกทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแยกย้ายกันกลับไปนอน เราสองคนก็คุยกันทันที และตกลงกันว่าจะขอเปลี่ยนห้อง แต่ทางโรงแรมบอกว่าห้องเต็ม สุดท้ายเราก็เลยต้องนอนห้องเดิม ขณะที่นอนหลับอยู่นั้นดิฉันก็ได้ยินเสียงเพื่อนดิฉัน ร้องเสียงดัง พอตื่นขึ่นมา ก็ถามเขาว่าเป็นอะไร เขาก็เล่าว่าเขา ฝันว่ามีคนมารุมตีแล้วก็ลากให้เขาลงจากเตียง ดิฉันก็บอกว่างั้นมานอนด้วยกันเพราะขณะนั้นเป็นเวลาตี 3 กว่าๆ แล้ว แล้วเขาก็บอกว่า รู้สึกเจ็บแขน และขามากเลย พอเปิดดูก็เห็นเป็นรอยเขียวๆ แดงๆ เหมือนไปตีกับใครมาเต็มไปหมด ขณะที่คิดว่าจะกลับบ้านดีไหม ก็ได้ยินเสียงเคาะประตูเมื่อเปิดออกไปก็เจอแขกทั้งกลุ่มยืนอยู่แล้วก็บอกว่าจะขอเปลี่ยนห้อง ดิฉันก็เลยพาทุกคนลงมาที่ ล็อบบี้ เพื่อขอเปลี่ยนห้อง แต่พนักงานกลับบอกว่า "ไกด์คะ ไม่ต้องเปลี่ยนหรอกค่ะ เป็นทั้งโรงแรม ขนาดพวกเรายังต้องอยู่ข้างนอกเลย " ฉันก็เลยนึกออกทันทีว่า ที่นี่เป็นตึกเก่าโรงพยาบาลที่อยู่ด้านหลังนั่นเอง จากนั้นทั้งดิฉันก็บอกกับเพื่อนและลูกค้าทุกคนว่าเปลี่ยนห้องไปก็ไม่มีประโยชน์ จากนั้น ก็เลยรวมกันนอนอยู่ที่ ล็อบบี้ กันทั้งหมด ทุกคนไม่มีใครกล้ากลับขึ้นห้องเลยค่ะ เพราะจากคำบอกเล่าของแขก บอกว่า นอนๆอยู่ก็มีคนเข้ามานอนทับบ้าง ขอให้ช่วยเรียกหมอให้บ้าง มีเสียงร้องประหลาดๆ บ้าง กดลิฟท์ ก็ไม่ทำงานจนต้อง วิ่งมาหาไกด์บ้าง นึกออกมั้ยคะว่าโรงแรมนี้อยู่ที่ไหน....

ไม่มีความคิดเห็น:

Blog ที่เกียวข้อง