วันจันทร์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2551

เรื่อง ขวางทางทำไม

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี 2538ตอนนั้นผมทำงานอยู่แถวคลองตันแต่ที่พักอยู่แถวรัตนาธิเบศ ตอนนั้นผมจะขับรถมอเตอร์ไซด์ผ่านถนนเส้นนี้ทุกวันเพราะเป็นทางลัดและไม่มีรถใหญ่วิ่งกัน ถนนเส้นนี้เริ่มต้นจากแยกบางกรวยไปทลุออกเยื้องๆตั้งฮั่วเส็งธนบุรี ซึ่งถ้าเป็นตอนกลางวันรถก็จะมากพอสมควร แต่ถ้าตอนดึกๆจะไม่ค่อยมีรถ(โค้งเยอะด้วย) ผมใช้ถนนเส้นนี้มาประมาณปีกว่าๆ กลับมืดบ้างดึกบ้างก็ไม่เคยเจออะไร

แต่วันนั้นผมดื่มเหล้ากับเพื่อนๆก็ไม่ถึงกับเมาเพราะผมจะเน้นไปทางกับแกล้มซะมากกว่า พอได้เวลาประมาณตี2ก็แยกย้ายกันกลับ ก็เหมือนปกติครับผมก็กลับบ้านทางเดิมครับ ถึงจะดึกมากแล้วผมก็ไม่กลัวอะไรเพราะผมชินเส้นทางแล้ว แต่วันนี้ไม่ค่อยมีรถวิ่งเลยที่เห็นสวนมาประมาณ2-3คันได้ ผมขับเข้าทางลัดมาได้ประมาณซัก 8กม.แถวนี้เริ่มจะเป็นทางโค้งแล้วบ้านคนก็เริ่มจะน้อยลง จะมีก็แต่ต้นไม้ใหญ่ที่เขาเอาศาลเจ้าและพระเก่าๆไปทิ้งกัน แล้วอยู่ๆผมก็ขับรถไปเยียบแอ่งน้ำ(เหมือนเวลาที่ฝนตกแล้วมีน้ำขังตามถนน)กว้างยาวประมาณ 1x1เมตร ซึ่งแปลกมากเพราะช่วงนั้นเป็นหน้าหนาวและตลอดทางที่ผ่านมาถนนก็แห้งสนิท และน้ำก็กระเด็นโดนรถผม กับขากางเกงผม ผมก้มลงไปมองด้วยความโมโห เพราะดันใส่กางเกงสีครีม พอผมเงยหน้าขึ้นมามันล้ำปีนโค้งซอกไปทางซ้ายผมก็เสี้ยวรถทันที ปรากฎว่าช่วงปลายโค้งมียายแก่ถือไม้เท้ายืนขวางทางอยู่กลางถนนหันหน้ามาจ้องผมด้วยสายตาที่โกรธจัดจนมองเห็น เส้นเลือดสีแดง ผมตกใจมากหักรถหลบแกไปได้ห่างกันไม่ถึง ไม้บรรทัด พอพ้นมาได้ผมรีบหันกลับไปดูแกอีกที แกไม่ตกใจเลยสักนิดเดียวแถมแกยังหันหน้ามาจ้องผมพร้อมส่งเสียง ซึ่งถ้าใคร ได้ยินเสียงนั้นรับรองว่าต้องขนลุกจากหลังขึ้นไปถึงศรีษะเหมือนผม แน่นอน พอผมตั้งสติได้ก็รีบขับรถกลับบ้านพร้อมกับความรู้สึกที่มึน งงว่า สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อกี้นี้คืออะไรกันแน่

ระหว่างที่ผมเข้าบ้านพอจอดรถเสร็จผมก็นั่งลงเตรียมจะถอดรองเท้า ผมก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่มองเห็นขากางเกงเปื้อนเลอด ผมรีบกับเข้าบ้านทันที

ลืมบอกไปพอตื่นมาเลือดก็ยังอยู่นะครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

Blog ที่เกียวข้อง