เรื่อง เจอดีที่เขา

สวัสดีคะพี่ ๆ ทีมงานทุกคน และเพื่อน ๆ เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์จริงที่ไร่เขา.... ซึ่งรู้จักกับคนพื้นที่ถึงได้ไปพักที่ๆ ไร่นี้ได้ เริ่มจากขึ้นไปบนไร่นั้น พอลงจากรถได้ก็เดินหาของป่ามาทานกัน อันดับแรก ก็ไปหาน้ำผึ้งมาทานกัน ช่วงนี้นก็เป็นเวลา 5 โมงเย็นกว่า ๆ เอามาทานกันกับโต๊ะหินอ่อนอยู่ 1 ชุด พอทานข้าวทานอาหารกันเสร็จก็ไปกางเต๊นท์เพื่อจะได้นอนตอนกลางคืนกัน ตั้งแต่ลงจากรถมา มีความรู้สึกว่า ลมแรงยังไงบอกไม่ถูก แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร ก็ยังเฉย ๆ อยู่ รอบ ๆ พื้นที่นั้น จะมีสวน มีป่า โล่ง ๆ มีต้นไผ่ ต้นยางยืนตายอยู่ แล้วก็มีที่พักเป็นกระต๊อบ ซึ่งลักษณะบ้านนั้น ยังดีอยู่เลย เสร็จแล้วพวกเราก็มานั่งทานเหล้ากัน แบ่งเป็นสองวง วงคนพื้นที่กับคนขับรถ ซึ่งเป็นเพื่อนกัน ทานกันไปจนถึง 4 ุทุ่ม 5 ทุ่มกว่า ก็เกิดเหตุการณ์ ๆ นึง ช่วงนั้นลมแรงมาก จนเต็นท์ ที่กางจะพังแหล่ ไม่พังแหล่แล้ว จนพี่เอ๋บอกให้พวกน้อง ๆ มาช่วยกางเต๊นท์ใหม่ ก็มีเบียร์ มีพี่เล็ก มีต้น ไปช่วยกันกางเต๊นท์อยู่ 3 คน สักพัก ต้นก็มานั่ง คุยกันธรรมดา ที่พื้นอีกวงหนึ่ง มานั่งได้สักพัก ต้นบอก เมื่อกี้ที่ไปกางเต๊นท์ เห็นคนสองคนเดินเข้าไปในเต๊นท์ แต่ด้วยความสงสัย และไม่แน่ใจ ต้นพูดขึ้นมาว่า ใครว่ะ ฉันก็เลยบอกให้ไปดู นั่งด้วยกันแล้วจะรู้เหรอ ทันใดนั้น ต้นก็ลุกขึ้นทันที ไปหยิบไปฉายไปส่องที่ตัวเองเห็น ต้นเดินไปคนเดียวก็ไปมอง เสร็จแล้วก็วิ่งพรวดออกมาแล้วมาเกาะขาพี่เอ๋ แล้วพูดขึ้นมาว่า กลัวแล้ว ผมกลัวแล้วคร๊าบ อยู่นานสองนาน แล้วคนชื่อต๊ะ ก็มาถามว่า เป็นอะไร เห็นอะไร เขาก็บอกว่า เห็นคนใส่ชุดไทย เป็นชาย กับ หญิง อยู่ในเต๊นท์สองคน แล้วเขาก็ให้เพื่อน ไปดูที่เต๊นท์แต่ก็ไม่พบอะไร เสร็จแล้วก็มานั่งที่โต๊ะ ซึ่งต้นก็ยังเกาะขาพี่เอ๋อยู่ แล้วช่วงนั้น ก็ไปปลุกพี่เบ๊อะที่นอนอยู่เรียกชื่อก็เออ บอกให้ไปนอนก็เออ ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น แล้วก็ไปดูที่ต้นต่อว่าเขาเป็นอย่างไรบ้าง เขาก็ยังเกาะขาพี่เอ๋อยู่ จนพี่เอ๋บอกว่า ไหนว่ะ ผีอยู่ไหนว่ะ ยิงแม่งให้ตายให้หมด แล้วเขาก็ควักปืนขึ้นมายิงสามนั้น พอสิ้นนัดที่สาม พี่เบ๊อะแกก็ลุกขึ้นพรวด ลุกมาได้สักพัก ก็หยิบถาดยำวุ้นเส้นขึ้นมาแล้วก็เดินวนเวียนอยู่แถวนั้นสักสองรอบ แล้วก็เดินออกจากที่ตรงนั้นไป หายไปสักพัก ประมาณ 15 นาทีได้ แล้วแกก็มานั่งยอง ๆ ข้างรถ แล้วแก ก็พูดขึ้นมาว่า เฮ้ย กูมาทำอะไรที่นี่ว่ะ แล้วมาอยู่ตรงนี้ได้ไงเนี่ยะ ด้วยความขี้เล่นของแก ไอเราก็ไม่เชื่อ ก็เลยเดินผ่านพี่เขาไป ไม่ได้ฟังอะไร พี่เขาต่อ แล้วเขาก็ไปเล่าให้พี่ต๊ะฟัง คนเดียวกันกับที่ไปถามต้นว่าเห็นอะไร แล้วก็เล่าว่า เขาเดินอยู่ตามท้องทุ่งนา เห็นริบ ๆ แต่ไกลว่าเขากำลังเกี่ยวข้าวกันอยู่ เดินล้มลุกคลุกคลานกันอยู่ เดินเท่าไหร่ก็ไม่ถึงสักที แล้วก็ก็นึกกลับบ้าน เขาบอกว่ารอวินมอเตอร์ไซด์มารับแต่แล้วก้ไม่มี จนต้องเดินมาเรื่อย ๆ ได้เห็นแสงไฟ ที่พวกเราอยู่กัน แต่ในสายตาของพี่เขาตอนนั้น เขานึกว่าเป็นพวกชาวนา เลยเดินเข้าไปเรื่อย ๆ จนเริ่มรู้สึกตัวแล้วก็ได้มานั่งยอง ๆ อย่างที่บอกนั้นหละคะ แล้วสักพักต้นทีว่านั่งสงบสติอารมณ์อยู่ได้สักพักก็กระโดดข้ามเก้าอี้หินอ่อน แล้วพูดมาว่า ผมกลัวแล้วคร๊าบ ไม่อยู่แล้วโว๊ย แล้วพี่เขาก็จับไว้ทัน แล้วสักพัก พี่วรกับพี่อีกคนที่เข้าไปในป่าก็ไปเจอผีโป่ง ซึ่งเป็นผีเจ้าที่มาบอกว่า ให้ย้ายสำนักไปซะ เดี๋ยวจะหากันไม่เจอ บวกกับมาเจอเหตุการณ์นี้อีก ก็เลยบอกให้ไปพักที่บ้านดีกว่า เดี๋ยวจะหากันไม่เจอ และแล้วเราก็ย้ายของขึ้นรถ จับเจ้าต้นขึ้นรถ ขณะนั้น ต้นก็ยังกลัวอยู่ กลิ้งไปกลิ้งมาจนผีเข้า ผีต๊ะเขาก็ถามผีที่เข้าว่า มึงมาจากไหน มาทำไม ชื่ออะไร ผีก็ตอบมาว่า ข้าชื่อศิริชัย โดนยิงตาย ที่นี่ คนที่สองที่ชื่อกิตติ ก็พูดมาแบบเดียวกัน พี่ต๊ะแกก็บอกว่า พวกข้าหลานหลวงพ่อโต มึงกลัวมั้ย มันก็ตอบว่ากลัว แล้วพี่ต๊ะก็บอกว่าข้าจะทำบุญไปให้ เท่านั้นแหละ ผีก็บอกว่า จริง ๆ นะ แล้วผีก็ออกจากต้นไป ส่วนพี่เบ๊อะก็กลับเข้าสู่ภาวะปรกติ ส่วนต้นก็ได้หลับไปจนถึงเช้า พอเช้ามาถามต้น ต้นก็บอกไม่รู้เรื่องเลย เรื่องของ ๆ เรื่องก็คือพวกเราไม่ได้บอกกล่าว ก่อนมานอน แล้วก็ไม่ได้มาเส้นเจ้าที่ ถ้าใครไปเที่ยวแบบนี้ก็ขอให้ไหว้ เจ้าที่ เจ้าทาง ขอขมา แล้วอย่าไปรบหลู่ หรือ ทักต้นยางที่ตายแล้วนะคะ เดี๋ยวจะไม่มีชีวิตกลับมาอย่างนี้ ครั้งนี้ถือว่าเป็นบทเรียนชีวิตจริง ๆ คะ คุณคิดนะ จะเป็นไปยังไงได้ ภูเขาล้อมรอบ แต่ลมมายังกับพายุ ทั้งบรรยากาศ ผีที่เพื่อนเห็น อะไรหลาย ๆ อย่างช่างเป็นใจจริง ๆ ตั้งแต่กลับมา ยังไม่หายหลอนเลยคะ น่ากลัวจริง ๆ