วันพฤหัสบดีที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2551

เรื่องเกิดที่คณะ

เอกชนแห่งหนึ่ง(ตอนนี้จบมาได้เกือบปีแล้ว) เหตุการณ์มีอยู่ว่า วันนั้นน้องและเพื่อนนัดกันที่มหาวิทยาลัยเพื่อจะเตรียมตัวไปทำฉากออกแบบเพื่อจัดรายการโทรทัศน์ในห้อง สตูดิโอ (สอบ)ทำเสร็จก็ประมาณบ่ายๆได้ น้องกับเพื่อนๆกำลังลงลิฟท์มา แต่น้องดันปากเสียบอกว่า คอยดูนะเดี๋ยวลิฟท์ต้องเปิดชั้น 2 แน่ พอพูดไม่ขาดคำปรากฎว่าลิฟท์ดันค้าง เลขในลิฟท์โชว์มาว่ากำลังอยู่ชั้น 3 ทุกคนเงียบมองมาที่น้อง สักพักประตูลิฟท์ก็เปิด ทุกคนรีบออกจากลิฟท์ ภาพที่น้องเห็นรู้สึกแปลกใจมากยังหันไปพูดกับเพื่อนว่าทำไมวันนี้ที่คณะเราคนเยอะผิดปกติน่ะ ทุกคนต่างพากันเห็นด้วย แต่เชื่อไหมว่าพอน้องลงบันไดมาปรากฎว่าลิฟท์ที่เปิดน่ะเปิดชั้น 2 แต่เลขที่ขึ้นดันเป็นชั้น 3 ไม่ได้มีแค่นี้นะเหตุการณืในลิฟท์ของคณะยังเกิดขึ้นอีก คือมีช่วงหนึ่งที่เพื่อนน้องต้องซ้อละครเวทีกัน วันแรกเขาก็ลงลิฟท์ตามปกติ แต่ลิฟท์ก็เปิดชั้น 2 วันที่ 2 ลิฟท์ก็เปิดชั้นสองอีกทั้งๆที่ไม่มีใครเรียก (ประมาณ 3 ทุ่มได้) พอวันที่ 3 เพิ่อนน้องคนหนึ่งดันปากเสียขึ้นมาพูดว่า เนี่ยะคอยดูนะเดี๋ยวก็เปิดั้น 2 อีก พูดไม่ทันขาดคำลิฟท์ก็เปิดชั้น 2 ทันที เพื่อนทุกคนตกใจกลัว แต่มีเพื่อนคนหนึ่งที่ไม่กลัวแล้วพูดมาลอยๆว่า "อยากเข้าก็เข้ามาจะรีบกลับบ้านดึกแล้ว" ทันใดนันลิฟท์ก็ปิดลง พอถึงชั้นหนึ่งทุกคนต้องรีบออกจามหาวิทยาลัยโดยด่วน นอกจากเรื่องลิฟท์แล้วยังมีเรื่องห้องการแสดงอีก รุ่นน้องที่ซ้อมละครเวทีอยู่เจอคนมามองจ้องหน้าเขา รุ่นน้องคนนี้แทบสติแตก แต่โชคดีที่เพื่อนของน้องท่องบทสวดชินบัญชรได้อาการก็เลยไม่เป็นอะไรมาก และเคยมีคนบได้ยินว่าห้องการแสดงห้องนี้เคยได้ยินเสียงแอร์เปิดแต่พอเปิดประตูเข้าไปดูปรากฏว่าแอร์ยังปิดอยู่ไม่มีใคเปิดแอร์เลย และมีอีกเรื่องชวนขนลุกกว่าอีกคือว่า ร่นพี่กำลังนั่งตัดต่องานอยู่ในห้องตัดต่อเวลาประมาณ ตี 1ได้ เขาได้ยินเสียงคนเดินลงบันไดมาจากชั้นดาดฟ้า และบางครั้งกำลังนั่งทำงานอยู่ก็ได้กลิ่นแป้งเด็กลอยมาเตะจมูกเขา แต่พอถามถึงที่มาที่ไปก็พอรู้คร่าวๆว่า ในลิฟท์เคยมีรุ่นพี่คนหนึ่งหัวใจวายเสียชีวิตคาลิฟท์ ที่เขามาเขาน้องคิดว่าเขาคงอยากมาดูน้องๆทำงานส่งอาจารย์มั้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

Blog ที่เกียวข้อง